จากกรณีที่ “ดาเรีย คาเรนยุก” นักข่าวหญิงชาวยูเครน ได้เรียกร้อง เขตห้ามบิน กับทาง “บอริส จอห์นสัน” นายกรัฐมนตรีของประเทศอังกฤษ ทำไมหลายคนอาจสงสัยขึ้นมาได้ว่าเขตห้ามบินนั้นคืออะไร และมีความหมายอย่างไรกันเนี่ย The Thaiger จึงขออาสาสร้างความกระจ่างให้แก่ทุกท่านที่สงสัยเกี่ยวกับข้อห้ามของเขตนี้ ทำไมถึงห้ามบินและทำอย่างไรถึงจะได้เขตนี้ขึ้น เราไปเรียนรู้เกี่ยวกับเขตห้ามบินกันได้เลย
เขตห้ามบิน คืออะไร
เขตห้ามบิน (No-fly zone ) คือ บริเวณเหนือน่านฟ้าของประเทศที่กำหนดว่า ห้ามให้เครื่องบินหรืออากาศยานบางชนิดบินผ่าน โดยส่วนมากจะประกาศใช้เพื่อรักษาาความปลอดภัยในพื้นที่ ๆ ค่อนข้างมีความเปราะบาง หรือในบางพื้นที่ ที่จำเป็นต้องมีการรักษาความลับ รวมไปถึงสถานที่ใช้ในการชุมนุม หรือจัดการแข่งขันกีฬาระดับประเทศเป็นต้น
ซึ่งในด้านการทหาร การมีเขตห้ามบินจะมีขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้มีอากาศยานลุกล้ำเข้าไปในน่านฟ้าที่ได้มีการประกาศใช้เขตห้ามบิน เพื่อป้องกันการโจมตี หรือสอดแนมจากฝ่ายตรงข้าม จะต้องมีการบังคับใช้โดยกองกำลังทหาร ซึ่งนั่นหมายถึงหากมีอากาศยานไม่ว่าจะเป็นของที่ใด โดยเฉพาะของฝ่ายตรงข้าม ฝั่งที่โดนลุกล้ำก็จะสามารถทำการสกัดกั้นด้วยการยิง หรือวิธีการอื่น ๆ ได้ทันที
ในกรณีของยูเครนนั้นข้อเรียกร้องนี้เกิดขึ้นจาก ผู้คนที่ยังอยู่ในพื้นที่และไม่สามารถอพยพ ไปที่ใดได้ ในคณะที่ รัสเซียก็ยังทำการโจมตี ด้วยอากาศยานรบอยู่เป็นเนืองนิตย์ แต่เหตุผลที่ยังไม่สามารถจะประกาศเขตห้ามบินได้นั้น ทางนานาประเทศ อาทิ อเมริกา หรือองกรค์นาโต้ที่ได้ยื่นมือเข้าไปช่วยยูเครนก็ต่างได้ให้ความเห็นว่า หากทำเช่นนั้นเท่ากับทำให้สถานการณ์ของสงครามตรึงเครียดยิ่งขึ้นเนื่องจาก หากประกาศเขตห้ามบินไปแล้ว ก็เท่ากับต้องเปิดสงครามกับรัสเซียด้วยการยิงสกัดอากาศยานทุกลำโดยไม่มีข้อยกเว้นนั่นเอง
โดย นาย คูเลบา ย้ำว่า หากโรงงานแห่งนี้ระเบิดขึ้น แรงระเบิดจะใหญ่กว่าเชอร์โนบิลถึง 10 เท่า พร้อมวอนให้กองทัพรัสเซียหยุดยิงทันที เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าควบคุมเพลิงทันที เบื้องต้นมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ดับเพลิงลงพื้นที่ไม่ได้ เนื่องจากกองทัพรัสเซียยิงขีปนาวุธอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ทางโฆษกของโรงไฟฟ้าระบุว่า เตาปฏิกรณ์ ที่เกิดเพลิงลุกไหม้นั้น เป็น เตาปฏิกรณ์ ที่อยู่ภายใต้การซ่อมแซม และไม่ได้ใช้งานอยู่ในขณะนี้ อย่างไรก็ตามโฆษกย้ำว่าเป็นเรื่องจำเป็นที่ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจะเข้าควบคุมเพลิงให้เร็วที่สุด ขณะที่ ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือ IAEA ระบุว่า ยังไม่พบความเปลี่ยนแปลงในระดับกัมมันตรังสีในพื้นที่
วงการบันเทิงยังคงเดินหน้าคว่ำบาตร รัสเซีย กันอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่รัสเซียรุกรานยูเครน ซึ่ง เน็ตฟลิกซ์ อาจจะร่วมแจมคว่ำบาตรรัสเซียด้วย เมื่อวันที่ 3 มีนาคม สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงานว่า เน็ตฟลิกซ์ (Netflix) แพล็ตฟอร์มสตรีมมิงภาพยนต์ยักษ์ใหญ่ ได้เตรียมยุติการเข้าซื้อและการผลิตภาพยนตร์ในประเทศรัสเซียเป็นการชั่วคราว เพื่อเป็นการตอบโต้ที่กองทัพรัสเซียบุกยูเครน ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว
โดยในขณะนี้ทางเน็ตฟลิกซ์มีภาพยนตร์รัสเซียสี่เรื่องที่กำลังอยู่ในระหว่างการถ่ายทำและอยู่ในช่วงการตัดต่อรวมกัน 4 เรื่อง ซึ่งหากเน็กฟลิกซ์ประกาศร่วมบอยคอตจริง จะเป็นอีกหนึ่งบริษัทในวงการบันเทิงที่ร่วมคว่ำบาตรรัสเซีย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ดิสนีย์, โซนีย์, ยูนิเวอซัล และ พาราเมาท์ ได้ประกาศงดฉายภาพยนตร์ในรัสเซียมาแล้ว
Spotify ดำเนินการปิดสำนักงานในประเทศ รัสเซีย
Spotify ประกาศถึงการปิดสำนักงานประจำประเทศ รัสเซีย พร้อมทั้งปิดช่องสื่อที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลรัสเซียบนแพลตฟอร์ม – RT และ Sputnik (3 มี.ค. 2565) Spotify ทำการประกาศถึงการปิดสำนักงานประจำประเทศ รัสเซีย หลังจากที่เพิ่งยื่นเรื่องเปิดสำนักงานไปเมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา และยังได้ดำเนินการถอดเนื้อหาทั้งหมด รวมถึงช่องทางของงสื่อที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลรัสเซียบนแพลตฟอร์มของตัวเองอีกด้วย
โดยทาง Spotify ได้ประกาศเมื่อวานนี้ว่าบริษัทได้ดำเนินการปิดสำนักงานในประเทศรัสเซียลงไปอย่างไม่มีกำหนด หลังมีการเปิดตามกฎหมายที่มีการลงนามเมื่อกรกฏาคม 2021 ที่ซึ่งบังคับให้บริษัท Social Media จากต่างประเทศที่มีผู้ใช้งานเป็นจำนวน 5 แสนรายต่อวัน มิเช่นจะถูกปิดกั้นการเข้าถึงภายในประเทศรัสเซีย
การดำเนินการดังกล่าวนั้น Spotify ได้กล่าวว่าเป็นไปเพื่อตอบสนองต่อ “การโจมตีประเทศยูเครนอย่างไร้เหตุผล” และในแถลงการที่ประกาศออกไปนั้นก็มีเนื้อหาอีกว่า “เป้าหมายหลักของเราในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมานั้น ก็คือความปลอดภัยของพนักงานของเรา และเพื่อมั่นใจว่าแพลตฟอร์มนั้นจะเป็นจะเป็นแหล่งข้อมูลด้านข่าวสารทั้งในระดับโลก และระดับภูมิภาคที่สำคัญสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาสำคัญเป็นอย่างยิ่ง”
ซึ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ แพลตฟอร์มก็ได้ทำการถอดเนื้อหาทั้งหมดจากสื่อที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลรัสเซีย – RT และ Sputnik ในทุกภูมิภาคทั่วโลก ยกเว้นในประเทศรัสเซีย ตามหลัง Facebook (Meta) และ Twitter ทำให้ทั้งทาง Sputnik และ RT ต่างออกมาโต้ถึงการดำเนินการดังกล่าว : Sputnik กล่าวว่า การปิดกั้นการเข้าถึง และการเซนเซอร์โดยชัดเจนนั้นถือว่าเป็นตัวอย่างที่สกปรกที่สุดในการละเมิดเสรีภาพในการพูด, RT ได้กล่าวว่า การถอดเนื้อหาทั้งหมดของ Spotify ถือว่าเป็นความผิดพลาดในการบอกถึงปัญหาในการพาดหัวของบริษัท
นอกจากนี้แล้ว Spotify ยังได้ทำการปรับเนื้อหาให้นำเสนอข่าวที่เกี่ยวข้องกับสงครามจากช่องทางที่น่าเชื่อถือ และมีการช่วยเหลือการบริจาคของพนักงานด้วยการสมทบมูลค่าเพิ่มเป็น 2 ต่อ 1 เพื่อช่วยเหลือความพยายามทางด้านมนุษยชนในพื้นที่
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป